ผมไม่ได้บอกเองนะครับ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเขาเป็นคนบอก ค่าเงินที่ปิดไปเมื่อวานนี้อยู่ที่ ๓๓.๑๓ บาทต่อดอลลาร์ แข็งขึ้นมาจากตอนปิดสิ้นปี ๒๕๕๐ ไปแล้ว ๑.๗% พอบาทแข็งอย่างนี้ก็เริ่มเดือดร้อนกันอีกรอบแล้วครับ คนแรกเลยก็แน่ๆ ต้องเป็นผู้ส่งออกที่จะต้องมาโวยก่อน แต่งวดนี้ยังไม่ทันจะออกมาเรียกร้องอะไรก็โดนท่านนายกฯออกมาเล่นซะก่อน ท่านบอกว่า สาเหตุที่เงินบาทแข็งโป๊กอย่างนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากผู้ส่งออกนี่แหละที่ไปเทขายเงินดอลลาร์ บาทมันก็แข็งสิเว้ยยยย… (ประโยคหลังนี่ของผมเอง เดาเอาว่าท่านคงนึกในใจอย่างนี้)
แต่ถ้ามองกันแบบยุติธรรม ถ้าผมเป็นผู้ส่งออก แล้วผมเห็นเทรนด์ (ที่แปลว่าแนวโน้ม ไม่ใช่รถไฟ) ค่าเงินดอลลาร์มันจะอ่อนลงไปเรื่อยๆ ผมจะทะลึ่งไปถือไว้ทำลิงอะไร ผมก็ขายก่อนสิครับ ถ้าถืออยู่ ๑ ล้านเหรียญ เกิดมันอ่อนไปบาทนึงผมก็ขาดทุนไปล้านนึง จะถือเอาไว้ให้โง่ทำไม แล้วผู้ส่งออกเขามีกันคนละล้านที่ไหน มีกันเป็นสิบๆล้านโน่น เก็บเอาไว้ก็ขาดทุนกันเป็นสิบๆล้านสิครับ รัฐท่านจะมาช่วยมั๊ยล่า….ก็เปล่า งานนี้ก็ตัวใครตัวมันสิครับ พระท่านยังบอกเลยว่า อัตตาหิ อัตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั้นแล
เอิ๊ก…
ทำไมเงินบาทมันถึงแข็งค่าขึ้นละครับ
อันนี้จนใจครับ ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็ต้องว่า เพราะดอลลาร์มันอ่อน ส่วนทำไมดอลลาร์ถึงอ่อน ก็เพราะเศรษฐกิจมันร่อแร่ จะไปแหล่มิไปแหล่ แล้วทำไมมันเป็นอย่างนั้น ก็เพราะมันโดนเรื่องซับไพร์มกับราคาน้ำมันเข้าไป แล้วฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ก็แตกไปแล้ว … มั๊งครับ แฮ่ 8)
อ่า ท่านแกหมดมุขจะโทษแล้วหรือครับเนี๊ยะ
สงสัยมีคนชงให้มั๊งครับ แต่คงไม่รู้มือกันก็เลยชงขมไปหน่อย เอิ๊ก…
ควรจะเครียดไหมคะ -_-”
แต่ว่าพยายามไม่เครียด ท่องไว้ๆ
ม่ายเครียด ม่ายเครียด … เว้ยยยยยย
เซ็งเหมือนกันครับ